เอชไอวีคืออะไร?

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเอชไอวี

HIV

วิธีการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีการรักษาเอชไอวีให้หายขาด แต่ก็มีวิธีการรักษาเพื่อให้ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีมีสุขภาพที่ดีและมีชีวิตยืนยาวเหมือนคนทั่วไปได้ อย่างไรก็ดี มีวิธีการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพ

วิธีการต่าง ๆ ต่อไปนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี:

การใช้ถุงยางอนามัย: เมื่อมีเพศสัมพันธ์ จะต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักก็ตาม การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี

การใช้เข็มสะอาด: ทุกครั้งที่จะใช้ยาเสพติดด้วยการฉีด จะต้องใช้เข็มใหม่ที่สะอาดทุกครั้ง

การสอบถามประวัติการมีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมา: การทราบถึงสถานะการมีเชื้อเอชไอวีของคู่ของคุณจะช่วยทำให้คุณสามารถหาวิธีการที่เหมาะสมในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ทั้งนี้ ยังมีผู้มีเชื้อเอชไอวีอีกเป็นจำนวนมากในประเทศไทยที่ยังไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้อเอชไอวี ดังนั้นคุณจึงควรที่จะชวนคู่ของคุณไปตรวจเอชไอวีพร้อมกัน

การมีเพศสัมพันธ์ในขณะมึนเมา: ในระหว่างการดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ หรือการใช้สารเสพติด อาจเป็นการยากที่คุณจะมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยหรือใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้อง หากคุณคิดว่าคุณอาจจะต้องดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ หรือใช้สารเสพติด แต่ก็ยังอยากมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย คุณสามารถขอคำปรึกษาจากเราได้

การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ: โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน หนองในเทียม หรือซิฟิลิส จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงมากขึ้นในการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการที่ปรากฏเด่นชัด 

การงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์หรือการมีคู่เพศสัมพันธ์น้อยราย: การมีคู่เพศสัมพันธ์น้อยรายจะช่วยลดความเสี่ยงในการรับเชื้อเอชไอวีหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ

อาการของโรค

ผู้มีเชื้อเอชไอวีหลายคนไม่มีอาการใด ๆ เลยจนกระทั่งเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรค เชื้อเอชไอวีสามารถอยู่ในร่างกายของคนได้นานนับสิบปีหรือนานกว่านั้นโดยมิได้แสดงอาการใด ๆ เลย ในช่วงระยะสุดท้ายของโรคซึ่งเป็นช่วงที่เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) อาจมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น อ่อนเพลียอย่างมาก ท้องเสียเรื้อรัง วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด เป็นต้น อาการเหล่านี้เกิดขึ้นมักเกิดจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสซึ่งเกิดขึ้นในร่างกายเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลงและไม่สามารถที่จะควบคุมหรือต่อสู้กับเชื้อโรคเหล่านั้นได้

สำหรับกรณีที่เพิ่งติดเชื้อเอชไอวีได้ประมาณ 2 สัปดาห์จนถึงประมาณ 1 เดือน จะเป็นช่วงที่ร่างกายของผู้ที่เพิ่งติดเชื้อเอชไอวีจะมีปริมาณเชื้อเอชไอวีสูงมากและสามารถถ่ายทอดเชื้อดังกล่าวให้ผู้อื่นได้หากมีพฤติกรรมเสี่ยง ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวผู้ที่เพิ่งติดเชื้อเอชไอวีมักจะมีอาการป่วยเหมือนไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่าผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีทุกคนจะต้องมีอาการเหล่านั้น

หากคุณเป็นผู้มีเชื้อเอชไอวี

แม้ว่าการติดเชื้อเอชไอวีจะถือเป็นโรคที่ร้ายแรง แต่พึงระลึกไว้เสมอว่ามันเป็นโรคที่รักษาได้ ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีจำนวนมากมีชีวิตยืนยาวและมีสุขภาพดี การมีเชื้อเอชไอวีในร่างกายไม่ได้เป็นเหมือนโทษประหารชีวิต ดังนั้น ผู้มีเชื้อเอชไอวีจึงจะไม่เสียชีวิตภายในไม่กี่ปีเหมือนอย่างในอดีต

ทั้งนี้เนื่องจากตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา เริ่มมีการผลิตยาต้านไวรัสซึ่งใช้ในการรักษาเอชไอวี การรักษาเอชไอวีด้วยการทานยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำจะส่งผลให้เชื้อเอชไอวีในร่างกายลดต่ำลงอย่างรวดเร็วจนอยู่ในระดับที่ไม่สามารถตรวจพบเชื้อเอชไอวี (undetectable level) ดังนั้น หากคุณเป็นผู้มีเชื้อเอชไอวี คุณก็ยังสามารถมีสุขภาพดีและแข็งแรงได้เหมือนคนทั่วไป และสามารถได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนด้านการรักษาได้ หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ลองเข้ามาที่เว็บไซต์

ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อปรึกษา 064 598 6112